ครูไวยุ์
-------------------------------------------------------------------------
การสืบพันธุ์ หรือ การขยายพันธุ์ (อังกฤษ: Reproduction) หมายถึงการเพิ่มจำนวนลูกหลานที่มีลักษณะเหมือนเดิมของสิ่งมีชีวิตโดยที่สิ่งมีชีวิตรุ่นใหม่ที่เกิดขึ้นนี้จะทดแทนสิ่งมีชีวิตรุ่นเก่าที่ล้มหายตายจากไป ทำให้สิ่งมีชีวิตเหลือรอดอยู่ในโลกได้โดยไม่สูญพันธุ์ไป
การสืบพันธุ์มี 2 วิธี
1. การสืบพันธุ์แบบไม่อาศัยเพศ (Asexual reproduction) เป็นการเพิ่มจำนวนลูกหลานที่ไม่ต้องอาศัยเพศเข้ามาเกี่ยวข้อง และไม่มีการผสมกันของเซลสืบพันธุ์ แบ่งออกเป็น
1) การแตกหน่อ (budding) การสืบพันธุ์แบบนี้สิ่งมีชีวิตตัวใหม่เจริญจากกลุ่มเซลล์ที่เรียกว่า หน่อ ซึ่งงอกออกมาจากตัวพ่อแม่ แล้วหลุดออกเจริญกลายเป็นตัวเต็มวัยต่อไป ซึ่งแบ่งออกเป็น
1) การแตกหน่อ (budding) การสืบพันธุ์แบบนี้สิ่งมีชีวิตตัวใหม่เจริญจากกลุ่มเซลล์ที่เรียกว่า หน่อ ซึ่งงอกออกมาจากตัวพ่อแม่ แล้วหลุดออกเจริญกลายเป็นตัวเต็มวัยต่อไป ซึ่งแบ่งออกเป็น
- การแตกหน่อภายนอก (external budding) พบในพวกฟองน้ำ พวกไนดาเรีย
ได้แก่ ไฮดรา โอบิเลีย เป็นต้น
A bud begins to form on the tubular body of
an adult Hydra. The bud develops a mouth and tentacles. The bud detaches from
its parent and the new Hydra is fully developed and will find its own location
for attachment
รูปที่ 2 แสดงการแตกหน่อของไฮดรา
วิดิทัศน์ 1 แสดงการแตกหน่อของไฮดรา
- การแตกหน่อภายใน (internal budding) หรือ การสร้างเจมมูล (gemmule) เป็นการสร้างหน่ออยู่ในร่างกายของตัวแม่ จะ เจริญเป็นสิ่งมีชีวิตตัวใหม่ได้ เมื่อถูกปล่อยออกมานอกร่างกายตัวแม่ พบในฟองน้ำ การสร้างเจมมูลมีปัจจัยที่เกี่ยวข้องคือ แสงและอุณหภูมิ เมื่อตัวแม่ตายไป เจมมูลยังคงอยู่รอดได้ เซลล์อะมีโบไซม์ (amoebocyte) ทำหน้าที่สร้างเซลล์สืบพันธุ์
Sponges exhibit a form of asexual reproduction that
relies on the production of gemmules
or internal buds. In this form of asexual reproduction, a parent releases a
specialized mass of cells that can develop into offspring.
รูปที่ 3 การสร้างเจมมูล (gemmule) ในฟองน้ำ
2) การงอกใหม่ (Regeneration) เป็นการสืบพันธุ์ที่มีการสร้างส่วนของร่างกายที่หลุดออกหรือสูญเสียไปให้เป็นสิ่งมีชีวิตตัวใหม่ ทำให้มีจำนวนสิ่งมีชีวิตเพิ่มมากขึ้น สัตว์ที่มีการสืบพันธุ์ลักษณะนี้ ได้แก่ พลานาเรีย ดาวทะเล ซีแอนนีโมนี ไส้เดือนดิน ปลิงน้ำจืด
รูปที่ 4 แสดงการงอกใหม่ของขาและหางจิ้งจก แต่จัดเป็นการงอกใหม่เพื่อซ่อมแซมหรือสร้างอวัยวะที่ขาดหายไป ไม่ใช่การงอกใหม่เพื่อการสืบพันธุ์
รูปที่ 5 แสดงการงอกใหม่ของดาวทะเล
รูปที่ 6 แสดงการงอกใหม่ของไฮดรา
In this type of
reproduction, the body of the parent breaks into distinct pieces, each of which
can produce an offspring.
รูปที่ 7 การหักเป็นท่อนของสาหร่าย
1: Spirogyra. 2: Cylindrocystis. 3: Euastrum
รูปที่ 8 การหักเป็นท่อนของพนาธิตัวตืด
4) การเกิดเอ็มบริโอจากเซลล์ร่างกาย (somatic embryogenesis)
เกิดในกรณีที่ร่างกายถูกตัดขาด
หรือกลุ่มเซลล์มารวมตัวกันแล้วเจริญเติบโตเป็นตัวใหม่ เช่น ฟองน้ำ พลานาเรีย
เมื่อถูกตัดขาดเป็นชิ้นทั้งตามยาวและตามขวางก็สามารถสร้างส่วนที่ขาดหายไปขึ้นมาใหม่ได้
เป็นต้น
Somatic embryogenesis is a process where
a plant or embryo is derived from a single somatic cell or group of
somatic cells. Somatic embryos are
formed from plant cells that are not normally involved in the development of
embryos.
รูปที่ 9 แสดงการงอกใหม่ของพลานาเรีย
5) พาร์ทีโนจีนีซีส (parthenogenesis) เซลล์สืบพันธุ์เพศเมียเจริญเติบโตไปเป็นสิ่งมีชีวิตตัวใหม่อย้างสมบูรณ์
โดยไม่ต้องผ่านกระบวนการปฏิสนธิ เช่น พวกโรติเฟอร์ ผึ้ง มด ต่อ แตน ไรแดง
Parthenogenesis This type of reproduction
involves the development of an egg that has not been fertilized into an
individual. Animals like most kinds of wasps, bees, and ants that have
no sex chromosomes reproduce by this process. Some reptiles and fish are
also capable of reproducing in this manner.
รูปที่ 10 แสดงพาร์ทีโนเจเนซีสในผึ้งและไรแดง
เซลล์ตั้งต้นจะแบ่งออกเป็นสองส่วนเท่า
ๆ กัน ได้ชีวิตใหม่ 2 ตัว การแบ่งอาจแบ่งได้ตามขวาง transverse) หรือตามยาว (longitudinal)
พบใน prokaryote, paramecium,
planaria
Most prokaryotes reproduce asexually through
a process called binary fission. During binary fission, the single DNA molecule
replicates and the original cell is divided into two identical cells.
Binary fission begins with the single DNA molecule
replicating and both copies attaching to the cell membrane and the cell
membrane begins to grow between the two DNA molecules. Once the bacterium just
about doubles its original size, the cell membrane begins to pinch inward. A
cell wall then forms between the two DNA molecules dividing the original cell
into two identical daughter cells.
รูปที่ 11 แสดงการแบ่งออกเป็นสองส่วนของแบคทีเรีย
รูปที่ 12 แสดงการแบ่งออกเป็นสองส่วนของยูกลีนาและพารามีเซียม
วีดิทัศน์ 2 การแบ่งออกเป็นสอวส่วนของยูกลีนา
วีดิทัศน์ 3 การแบ่งออกเป็นสอวส่วนของพารามีเซียม